เด็กกำพร้าสัญญาแห่งสวรรค์ – อ.อามีน เหมเสริม


คำว่า “ เด็กกำพร้า “ ในหลักการของศาสนาอิสลามคือ เด็กที่พ่อตายจากไปก่อนที่เขาจะบรรลุศาสนภาวะ

            อิสลาม  เป็นศาสนาที่ส่งเสริมให้มนุษย์มีความเมตตา โอบอ้อมอารี  เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ที่ยากจน  แร้นแค้น  ตกทุกข์ได้ยาก  และผู้ที่อ่อนแอกว่า  ดังนั้น  การช่วยเหลือต่อเด็กกำพร้าจึงเป็นความรับผิดชอบสำหรับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถ

            อิสลาม  เป็นศาสนาที่ส่งเสริมให้คนในสังคมมีการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กกำพร้า  ซึ่งขาดบิดาผู้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัว  เด็กกำพร้าบางคนขาดทั้งพ่อขาดทั้งแม่  ต้องอยู่ในความดูแลของย่าหรือยาย  หรือญาติคนอื่นๆ  ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากจนอยู่แล้ว  จึงทำให้ชีวิตของเด็กกำพร้ามีแต่ความขาด  มีแต่ความบกพร่อง  ขาดอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  ขาดโอกาสทางการศึกษา  ขาดสภาพแวดล้อมที่ดีๆ  ที่จะหล่อหลอมให้เขาเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ  ที่สามารถช่วยประโยชน์ต่อสังคม 

            ดังนั้น อิสลามจึงมุ่งเน้นให้มุสลิมหันกลับมาให้ความสนใจต่อเด็กกำพร้า  ซึ่งเขาเหล่านั้นรอคอยการช่วยเหลือ รอคอยความเอ็นดูเมตตาของพี่น้องมุสลิมของเรา  ผู้ที่มีความจำเป็นในการช่วยเหลือเด็กกำพร้า  คือ ผู้ที่ใกล้ชิดเขาที่สุดหากไม่ก็ผู้ที่ถัดมา  หากยังไม่สามารถ   หรือไม่ก็สำหรับผู้ที่รู้ข่าวคราวที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ  กล่าวคือ  เด็กกำพร้าจำเป็นจะต้องมีผู้ให้การช่วยเหลือ  และการช่วยเหลือเด็กกำพร้า  หมายถึง  การช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นของชีวิตการศึกษา  ศาสนา  วิชาชีพ  การหล่อหลอมขัดเกลาชีวิตของเขาให้อยู่ในครรลองของศาสนา  และการช่วยเหลือนี้กับความเป็นอยู่รวมไปถึงการดูแลทรัพย์สินของเด็กกำพร้า  สำหรับผู้ดูแลนั้นหากเขายากจน  เขาสามารถจะใช้จ่ายส่วนตัวจากทรัพย์ของเด็กกำพร้าได้แต่ด้วยความชอบธรรม

อัลกุรอานได้กำชับต่อผู้ดูแลเด็กกำพร้าไว้  2 ประการใหญ่ๆ  คือ

  1. อย่ากินทรัพย์สินเด็กกำพร้า  กล่าวคือการเอาทรัพย์สินของเด็กกำพร้าโดยมิชอบธรรม  ดังอัลกุรอานกล่าวไว้ว่า “ แท้จริงบรรดาผู้ที่กินทรัพย์ของเด็กกำพร้าด้วยความอธรรมนั้น   แท้จริงเขากินไฟเข้าไปในท้องของพวกเขาต่างหาก  และพวกเขาก็จะเข้าสู่เปลวไฟ “  (อันนิซาอ์  อายะห์ที่ 2)
  2. เปลี่ยนทรัพย์ที่เลวของเขาด้วยทรัพย์ที่ดีของเด็กกำพร้า  “ และจงให้แก่บรรดาเด็กกำพร้า  ซึ่งทรัพย์สมบัติของพวกเขา  และจงอย่าเปลี่ยนเอาของเลวด้วยของดี  และจงอย่ากินทรัพย์ของพวกเขาร่วมทรัพย์ของพวกเจ้า  แท้จริงมันเป็นบาปใหญ่ “ (อันนิซาอ์  อายะห์ที่ 2)

อัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านนบีได้ให้ความสำคัญต่อการอุปถัมภ์  และการให้ความสนใจต่อเด็กกำพร้าอย่างมากทีเดียว  เสมือนดังอิสลามให้กำหนดกฎเกณฑ์ต่อประชาคมมุสลิม  ให้เขารักษาสิทธิของเด็กกำพร้า  จะสามารถใกล้ชิดกับอัลลอฮฺด้วยการให้ความเมตตาเอ็นดูต่อเด็กกำพร้า  และจะได้ผลบุญมากมาย  แม้เพียงเราเอาใจใส่ต่อความเดือดร้อนของพวกเขา  การยิ้มแย้มต่อพวกเขา  และแม้การลูบหัวของพวกเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการปิติยินดี  เช่น  วันอีด ฯ  ให้เขาคิดว่าถึงแม้ว่าเขาขาดพ่อไป  แต่เขาก็ยังมีพี่น้องมุสลิมอีกมากมายที่เปรียบเสมือนพ่อของเขา  คอยดูแลเมตตาและให้เขาได้มีวันอีดเหมือนเด็กอื่นๆ  ที่มีพ่อแม่  และครอบครัวที่อบอุ่นและเพื่อเขาจะได้ไม่รู้สึกเป็นปมด้อย  ยังมีหะดิษอีกหลายบทที่ให้ความสำคัญต่อเด็กพร้า  เช่น

  1. ท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ    กล่าวว่า  “  ฉันกับผู้ให้การอุปถัมภ์เด็กกำพร้าจะอยู่ด้วยกันในสวรรค์ดังเช่นนี้  “  แล้วท่านก็ชูนิ้วชี้ และนิ้วกลางขึ้นห่างกันเล็กน้อย
  2. จากอิบนิอับบาส  จากท่านนบี (ซ.ล.)  กล่าวว่า “ ผู้ใดก็ตามที่เอาเด็กกำพร้าไปเลี้ยงอาหาร  อัลลอฮฺก็จะให้เขาได้รับสวรรค์อย่างแน่นอน  ยกเว้นเขากระทำความผิดที่มิอาจให้อภัย ”